การวิเคราะห์ขีดความสามารถของเครื่องจักร

เมื่อเปรียบเทียบกับข้อต่อที่ขันประกอบ กระบวนการเชื่อมต่อได้รับการพิจารณาว่าเป็น"กระบวนการพิเศษ" เนื่องจากไม่สามารถตรวจสอบผลลัพธ์ได้ 100% โดยไม่ทำลายชิ้นส่วนที่เชื่อมต่อ ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ตรวจสอบและตรวจสอบย้อนหลังเพิ่มเติมเกี่ยวกับพารามิเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพตามมาตรฐานสากล (เช่น DIN 2304 & ISO 21368) ในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาดในการเชื่อมต่อ การวิเคราะห์ขีดความสามารถของเครื่องจักรของระบบการจ่ายจะพิสูจน์ฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถใช้เป็นตัวป้องกันเพื่อแยกเครื่องจักรออกให้้เห็นได้ว่าเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาด

การวิเคราะห์ขีดความสามารถของเครื่องจักรก่อนที่จะนำระบบไปใช้งานจะช่วยให้แน่ใจว่ามีการตั้งค่าพารามิเตอร์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับวัสดุ A & B เช่น แรงดันก่อนการจ่ายและโฟลว์การจ่าย นอกจากนี้ยังเป็นการส่งมอบระบบการจ่ายวัสดุที่มีฟังก์ชั่นการทำงานครบสมบูรณ์เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของโครงการ

การวิเคราะห์ขีดความสามารถของเครื่องจักรเป็นประจำจะช่วยให้สามารถตรวจสอบความแม่นยำและค่าการทำซ้ำได้ซึ่งจะช่วยให้ระบบของคุณมีคุณภาพสูงอยู่เสมอ นอกจากนี้ในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาด รายงานของการวิเคราะห์ขีดความสามารถของเครื่องจักรจะสามารถเสริมการวิเคราะห์หาสาเหตุหลักและการแก้ไขปัญหาได้โดยการแยกหรือระบุระบบการจ่ายในฐานะแหล่งที่มาของข้อผิดพลาด

หลังจากทำการวิเคราะห์ขีดความสามารถของเครื่องจักร ช่างเทคนิคของเราจะให้รายงานการทดสอบ รายงานนี้มีทั้งสำหรับระบบ 1K และ 2K และมีข้อมูลดังต่อไปนี้:

• 50 ผลลัพธ์ตัวอย่างหลังจากเซสชั่นการทดสอบ
• การนำเสนอที่โปร่งใสของผลลัพธ์การให้น้ำหนักทั้งหมด
• การกำหนดค่าเกณฑ์ความคลาดเคลื่อนที่ควบคุมได้ที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้สำหรับปริมาณและอัตราส่วนการผสม
• การแสดงผลการแจกแจงมาตรฐานและการแจกแจงตามลำดับเวลาของผลลัพธ์ทั้งหมด

มาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น ISO 21368 ระบุข้อกำหนดสำหรับการดำเนินการที่มีคุณภาพเหมาะสมของข้อต่อที่เชื่อมติดกัน นอกจากนี้ ISO 21368 ยังให้ข้อแนะนำสำหรับขั้นตอนขององค์กรและการรายงานทั่วไปสำหรับสายการผลิตแบบมืออาชีพทั้งในเวิร์คชอปและในสถานที่ปฏิบัติงาน ซึ่งรวมถึงการรักษามาตรฐานคุณภาพในการผลิต การเก็บบันทึก และการทำเอกสารอย่างครบถ้วน

DIN 2304 เป็นมาตรฐานที่มุ่งเน้นกระบวนการเชื่อมต่อด้วยสารยึดติดที่ได้คุณภาพสูง DIN 2304 มีความครอบคลุมทุกด้านของกระบวนการเชื่อมต่อ ซึ่งแตกต่างจากมาตรฐานบางอย่างที่มุ่งเน้นไปที่คุณสมบัติของวัสดุหรือการใช้งานที่เฉพาะเจาะจงแต่เพียงอย่างเดียว โดย DIN 2304 จะจัดการกับการออกแบบ การผลิต และการบำรุงรักษา โดยเน้นความสามารถในการทำซ้ำและคุณภาพ เป้าหมายคือการสร้างการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพ ทนทาน ทำซ้ำได้ เน้นเทคนิคการจ่ายที่เหมาะสมและแง่มุมต่างๆ ขององค์กร

ดัชนีขีดความสามารถของเครื่องจักรหรือที่เรียกว่า Cm & Cmk จะใช้เพื่อระบุขีดความสามารถของเครื่องจักรและได้มาจากการเก็บรวบรวมข้อมูลในระหว่างการผลิตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับ Cp และ Cpk ที่รู้จักกันทั่วไปซึ่งวัดขีดความสามารถระยะยาวตลอดกระบวนการ

Cm แสดงการกระจายตัวของค่าผลลัพธ์ภายในความกว้างของเกณฑ์ความคลาดเคลื่อน ในขณะที่ Cmk ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับขีดความสามารถของเครื่องจักรโดยสัมพันธ์กับขีดจำกัดของเกณฑ์ความคลาดเคลื่อน