Momentum Talks เป็นรายการเกี่ยวกับโรงงานอัจฉริยะ ในตอนนี้เราจะเจาะลึกเรื่องการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ และแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและเคล็ดลับในการรักษาความปลอดภัยให้กับโรงงานอัจฉริยะของคุณจากภัยคุกคามทางไซเบอร์
คอมพิวเตอร์กำลังมีบทบาทมากยิ่งขึ้นในการผลิต ซึ่งจะไม่มีอะไรหยุดยั้งกระแสนี้ได้ การผลิตแบบบูรณาการนี้จะเพิ่มความยืดหยุ่น ประสิทธิภาพ และความยั่งยืน แต่ทว่ามันเป็นการเปิดช่องโหว่ให้กับภัยคุกคามทางไซเบอร์ จะทำอย่างไรเพื่อให้มั่นใจได้ถึงเวลาการทำงาน ความรู้ทางเทคนิค และที่สุดคือความปลอดภัยผู้ปฏิบัติงานในโรงงานอัจฉริยะของคุณ เชิญอ่านสรุป Momemtum Talks ของเรา หรือรับชมเรื่องเด่นด้านล่าง!
Momentum Talks ดำเนินรายการโดย Amanda Teir และแขกรับเชิญในตอนนี้คือ:
- Robert Karlsson ผู้จัดการฝ่ายซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มระดับโลก Atlas Copco
- Klas Albons เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยส่วนธุรกิจ Atlas Copco
- Ludwig Seitz ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัย OT, Defensify
เหตุใดเราจึงควรนำระบบดิจิตอลสู่มาใช้ในการผลิตมากขึ้น
นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นของการผลิต การเปลี่ยนสู่ระบบดิจิตอลจะช่วยให้เราสามารถเพิ่มผลผลิตได้ด้วยการปรับการผลิตแบบเรียลไทม์ ลดจำนวนข้อบกพร่องด้วยการผนวกรวมกับระบบรับประกันคุณภาพที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น และเพิ่มเวลาที่เครื่องจักรทำงานด้วยสิ่งต่างๆ เช่น การบำรุงรักษาเชิงป้องกันขั้นสูง ข้อดีทั้งหมดเหล่านี้จะช่วยให้การผลิตมีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ ความยืดหยุ่นระดับสูงยังเป็นแนวโน้มสำคัญของการผลิต โรงงานต่างๆ จำเป็นมีความสามารถในการเปลี่ยนสิ่งที่ผลิตได้ดียิ่งขึ้น หรือผลิตสินค้าในสายการผลิตเดิมได้หลากหลายยิ่งขึ้น ตัวอย่าง เช่น ผู้ผลิตรถยนต์จะผลิตรถยนต์ทั้งที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในและรถยนต์ไฟฟ้าในสายการผลิตเดียวกัน ระบบแบบบูรณาการนี้มีความต้องการระบบอัตโนมัติที่มีความยืดหยุ่นยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งการเปลี่ยนสู่ระบบดิจิตอลและเครื่องมือดิจิตอลนั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เป็นจริงขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการนี้มีความเสี่ยง: ยิ่งเรานำซอฟต์แวร์และการเชื่อมต่อมาใช้มากเพียงใด ก็จะยิ่งเปิดช่องโหว่ของสภาพแวดล้อมของโรงงานต่อการโจมตีทางไซเบอร์มากเท่านั้น
การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ในโรงงานอัจฉริยะ
ผู้ผลิตต่างๆ ได้ทำการเชื่อมต่อเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เข้ากับเทคโนโลยีการทำงาน (OT) มากยิ่งขึ้น การผสาน IT เข้ากับ OT นี้มีข้อดีมากมาย เพราะทำให้เราสามารถรวบรวม ถ่ายโอน และวิเคราะห์ข้อมูล และสร้างสิ่งต่างๆ ได้ ดียิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น โรงงานคู่แฝดดิจิตอล
อย่างไรก็ตาม การผสาน IT เข้ากับ OT นั้นกลับเป็นการเปิดช่องโหว่ของการทำงานต่างๆ ต่อการโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งเราจะเห็นได้ชัดในระบบ OT รุ่นเก่า
ในการโจมตีความปลอดภัยด้าน IT มักจะมีความเสี่ยงเรื่องการรั่วไหลหรือความเสียหายของข้อมูล และการหยุดทำงานของระบบธุรกิจ ขณะที่ในสภาพแวดล้อม OT การโจมตีทางไซเบอร์สามารถนำไปการการผลิตที่สะดุด อุปกรณ์เกิดความเสียหาย หรือแม้แต่ผู้ปฏิบัติงานได้รับอันตรายหรือได้รับบาดเจ็บ
มาตรการที่สำคัญที่สุดที่ต้องทำเมื่อติดตั้งการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ในสภาพแวดล้อม OT ได้แก่:
- บุคคล: การตระหนักถึงการรักษาความปลอดภัยในหมู่บุคลากร
- กระบวนการ: กำหนดบทบาทและความรับผิดชอบ
- เทคโนโลยี: ไฟร์วอลล์ โปรแกรมป้องกันไวรัส และการตรวจสอบเครือข่าย
การทำงานร่วมกันระหว่างผู้เชี่ยวชาญ OT และ IT เป็นสิ่งสำคัญมากในการรักษาความปลอดภัยให้กับโรงงานอัจฉริยะของคุณ การมีผู้เชี่ยวชาญ IT และ OT ภายในทีมของคุณจะช่วยเพิ่มการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความเข้าใจร่วมกัน
สุดท้าย การแพตช์นั้นมีความสำคัญต่อการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ เนื่องจากจะช่วยลดช่องโหว่ที่จะทำให้โจมตีทางไซเบอร์ได้ ในโรงงานอัจฉริยะ ผู้ผลิตต่างๆ สามารถทำการแพตช์ในสภาพแวดล้อมทดสอบก่อนเพื่อป้องกันการหยุดทำงานที่เกิดจากการแพตช์อย่างไม่ระมัดระวัง
อะไรคือระดับการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมสำหรับการทำงานของคุณ
เมื่อมีโรงงานอัจฉริยะจำนวนมากขึ้น บริษัทผู้ผลิตต่างๆ ควรทำการประเมินเรื่องภัยคุกคามไซเบอร์ และค้นหาระดับการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมกับตน นอกจากความเสี่ยงทั่วไปแล้ว ยังมีเรื่องอื่นๆ ในโครงสร้างพื้นฐานเฉพาะตัวที่สามารถนำการควบคุมด้านการรักษาความปลอดภัยมาใช้เพื่อลดความเสี่ยง
โชคดีที่มีมาตรฐานต่างๆ ที่จะช่วยคุณค้นหาระดับการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เหมาะสมกับการทำงานของคุณ ISA/IEC 62443 คือชุดของมาตรฐานที่จะกำหนดระดับการรักษาความปลอดภัยดังกล่าว
- ระดับที่ 0: ไม่มีการละเมิด – ไม่ต้องเพิ่มการรักษาความปลอดภัย
- ระดับที่ 1: การละเมิดโดยไม่ตั้งใจ – เหมาะสำหรับบริษัทขนาดเล็ก
- ระดับที่ 2: การโจมตีโดยตั้งใจ – เหมาะสำหรับบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง
- ระดับที่ 3: การโจมตีที่ประสงค์ร้าย – เหมาะสำหรับบริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่
- ระดับที่ 4: การโจมตีระหว่างประเทศ – เหมาะสำหรับหน่วยงานที่มีความสำคัญระดับชาติ เช่น องค์กรด้านการป้องกันและภาคส่วนพลังงาน
Atlas Copco ทำงานร่วมกับผู้ผลิตต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจในความต้องการด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างลึกซึ้ง และทำให้มั่นใจว่าพวกเขามีเครื่องมือและกระบวนการที่เหมาะสมในการรักษาความปลอดภัยให้กับกิจการของตน
ข้อกำหนดด้านซอฟต์แวร์สำหรับโรงงานอัจฉริยะ
อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตนั้นมีความสามารถในการส่งข้อมูลได้นานแล้ว แต่วิธีการสื่อสารนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไป เดิมที อุปกรณ์จะเชื่อมต่อกับสภาพแวดล้อมโดยรอบและทำการสื่อสารแบบทางเดียว ซึ่งจะเป็นการส่งข้อมูลในทิศทางเดียว แต่ทว่าในโรงงานอัจฉริยะการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์และระบบจะเป็นแบบเรียลไทม์ และสามารถใช้ข้อมูลเพื่อเปลี่ยนแปลงการผลิตในแบบเรียลไทม์ ซึ่งหมายความว่าโปรโตคอลที่ขับเคลื่อนข้อมูลจะต้องมีความปลอดภัยมากกว่าที่เคย
สิ่งสำคัญที่สุดของการรักษาความปลอดภัยให้กับโรงงานอัจฉริยะก็คือการทำงานร่วมกัน ควรหารือเรื่องการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์กับเครือข่ายพันธมิตรและผู้จำหน่ายของคุณ และให้ทั้ง IT และ OT มีส่วนได้รู้เห็นด้วยเพื่อรับทราบมุมมองของพวกเขาและการยอมรับ การทำงานร่วมกันจะช่วยให้เราบรรลุซึ่งผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและมีความยั่งยืน
เคล็ดลับ 7 ประการเพื่อสร้างโรงงานอัจฉริยะที่มีความปลอดภัยทางไซเบอร์มากขึ้น
- อย่ารอช้ากับการเปลี่ยนเป็นระบบดิจิตอล
- เพิ่มความตระหนักรู้ในการรักษาความปลอดภัย OT
- เรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์อยู่เสมอ
- สร้างสภาพแวดล้อมการทดสอบสำหรับการแพตช์ OT
- ใช้มาตรฐานอุตสาหกรรมเป็นกรอบการทำงาน
- ประเมินระดับการรักษาความปลอดภัยของคุณ
- IT และ OT ทำงานร่วมกัน
นำศักยภาพของอุตสาหกรรม 4.0 มาใช้ประโยชน์ด้วย Smart Integrated Assembly
Smart Integrated Assembly เป็นแนวคิดของ Atlas Copco สำหรับผู้ผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการเปลี่ยนแปลงและนำโรงงานอัจฉริยะมาใช้ ข้อเสนอนี้รวมถึง เครื่องมือ Smart Connected Assembly สำหรับการใช้งานในโรงงานและนอกสถานที่ โซลูชั่นสายการประกอบแบบบูรณาการอย่างสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการผลิต รวมไปถึงชุดบริการที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอันเป็นเอกลักษณ์
วิธีการแบบองค์รวมนี้จะช่วยคุณในการพัฒนาการผลิตที่สามารถรับประกันคุณภาพ เป็นไปตามหลักสรีรศาสตร์ และเป็นมิตรต่อผู้ใช้ ในขณะที่ลดของเสีย วัสดุ และการสิ้นเปลืองพลังงาน ซึ่งนำไปสู่การลดต้นทุนพร้อมกับลดการปล่อยมลพิษที่เป็นสาเหตุของปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Smart Integrated Assembly