ข้อตกลงการบำรุงรักษาเชิงป้องกันสามระดับ ToolCover ของเราจะตอบสนองความต้องการจำเพาะและระดับการใช้เครื่องมือของคุณ ALTURE Maintain ซึ่งเป็นโซลูชั่นที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลของเราจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกำหนดการบำรุงรักษาของคุณและเพิ่มความพร้อมใช้งานของเครื่องมือของคุณ — โดยอิงกับการใช้งานเครื่องมือที่แท้จริง
กลยุทธ์การบำรุงรักษาที่มีประสิทธิภาพที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลแบบเรียลไทม์
ToolCover
ปกป้อง
ดูแลการลงทุนของคุณพร้อมไปกับจำกัดความล้มเหลวให้ต่ำสุดและลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
- เพิ่มความสามารถในการผลิตโดยรวมของคุณ
- ให้ผู้ผลิตดั้งเดิมเป็นผู้บำรุงรักษาเครื่องมือของคุณ
- ควบคุมค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
ToolCover
เสถียรภาพ
สร้างความมั่นใจว่ามีความน่าเชื่อถือพร้อมกับหลีกเลี่ยงการเพิ่มต้นทุนการซ่อมแซมและเวลางานขัดข้องที่ไม่คาดคิด
- สร้างความมั่นใจว่าเครื่องมือจะสามารถเชื่อถือได้
- หลีกเลี่ยงการหยุดทำงานของสายการผลิตบ่อยๆ
- ลดชิ้นส่วนอะไหล่และคลังเครื่องมือ
- ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
ToolCover
เวลาทำงาน
ให้สายงานของคุณทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เพิ่มประสิทธิภาพให้กับกระบวนการผลิตของคุณ
- เพิ่มเวลาทำงานของสายการผลิตให้สูงสุดโดยใช้เวลาในการส่งมอบที่เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
- เพิ่มคุณภาพของสายงาน
- ลดการสูญเสียข้อมูล
- ลดต้นทุนโดยรวมในการเป็นเจ้าของ
ดาวน์โหลด
- ToolCover with ALTURE Maintain Leaflet 2 MB, PDF
คำถามที่พบบ่อย
การบำรุงรักษาเชิงป้องกันคืออะไร
การบำรุงรักษาเชิงป้องกันนั้นเป็นวิธีการแบบเชิงรุกในการบำรุงรักษาเครื่องมือหรืออุปกรณ์เชื่อมต่อ โดยทั่วไปแล้วมักรวมถึงการเปลี่ยนชิ้นส่วนหรือการใส่น้ำมันหล่อลื่นเพื่อป้องกันความล้มเหลวที่อาจเกิดขึ้น และยืดอายุการใช้งานของทรัพย์สิน การบำรุงรักษาเชิงป้องกันมีเป้าหมายหลักเพื่อค้นหาและแก้ปัญหาก่อนที่จะเกิดความชำรุด หรือความเสียหายร้ายแรง ช่วยลดการหยุดทำงานที่ไม่ได้วางแผนล่วงหน้า และการซ่อมแซมที่มีราคาแพง
หลังจากทำการบำรุงรักษาเชิงป้องกันแล้วจะต้องทำการทดสอบ สำหรับเครื่องมือประกอบการขันนั้นจะต้องทำการสอบเทียบ ในการทำการทดสอบและ การสอบเทียบ นั้นคุณจะต้องใช้เวิร์กชอปที่มีเครื่องมือ อุปกรณ์เฉพาะทาง และช่างเทคนิคผู้เชี่ยวชาญ
ประเภทการบำรุงรักษาเชิงป้องกันที่มักพบ
การบำรุงรักษาเชิงป้องกันนั้นมีสามประเภทที่มักใช้กัน:
- การบำรุงรักษาที่อิงกับเวลา (หรือที่เรียกว่าการบำรุงรักษาตามระยะ): จะกำหนดให้ทำการบำรุงรักษาตามระยะที่สม่ำเสมอ โดยไม่คำนึงถึงการใช้งานหรือสภาพของทรัพย์สิน
- การบำรุงรักษาตามการใช้งาน: งานการบำรุงรักษาจะถูกทริกเกอร์อิงกับการใช้งานจริง เช่นชั่วโมงการทำงาน หรือวงจรการผลิต
- การบำรุงรักษาตามเงื่อนไข: จะทำการบำรุงรักษาเมื่อตัวชี้วัดบางอย่าง เช่น อุณหภูมิหรือแรงดันบ่งบอกถึงการลดลงของประสิทธิภาพ หรือความล้มเหลวที่จะเกิดขึ้น
เหตุใดที่การบำรุงรักษาเชิงป้องกันที่อิงกับการใช้งานจึงดีกว่า
แต่เดิมนั้นจะกำหนดช่วงการซ่อมบำรุงตามระยะเวลาการใช้งาน อย่างไรก็ตาม วิธีนี้มีข้อจำกัดเพราะว่าอายุการใช้งานของเครื่องมือนั้นขึ้นอยู่กับบริบทการใช้งานที่มีความจำเพาะเป็นอย่างมาก เราจึงแก้ด้วยการนำการบำรุงรักษาตามการใช้งานมาใช้ ซึ่งจะไม่ได้กำหนดตารางการบำรุงรักษาตามช่วงเวลาเท่านั้น แต่ยังพิจารณาการใช้เครื่องมือที่แท้จริงด้วย รวมไปถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ความถี่ของการขันแน่น ระดับของแรงบิด และประเภทข้อต่อ ทำให้ได้กลยุทธ์การบำรุงรักษาที่มีความแม่นยำยิ่งขึ้น
ศูนย์การจัดการเครื่องมือคืออะไร
ศูนย์การจัดการเครื่องมือ (Tool Management Center หรือ TMC) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงระดับการให้บริการ Uptime ของเรา คือโมเดลการบริการในสถานที่จริงเฉพาะของ Atlas Copco โดยบุคลากรของเราจะอยู่ในโรงงานของลูกค้าตามตารางเวลาที่กำหนดไว้ภายในพื้นที่ที่กำหนด โดยในพื้นที่นี้ พวกเขาจะมีเครื่องมือที่จำเป็นทั้งหมดในการซ่อมแซมหรือบำรุงรักษาเครื่องมือของ Atlas Copco หรือเครื่องมือการขันประกอบ เครื่องมือถอด เครื่องเจาะกระแทก เครื่องยก ฯลฯ ของแบรนด์อื่นๆ ตลอดจนการจัดการฐานการติดตั้ง
ที่ศูนย์การจัดการเครื่องมือ ช่างเทคนิคและวิศวกรที่ผ่านการรับรองของเราจะดำเนินงานด้านการบำรุงรักษาเชิงป้องกันและการสอบเทียบ โดยมีหน้าที่รับผิดชอบในการบำรุงรักษาที่เน้นความเชื่อถือได้ (Reliability Centered Maintenance หรือ RCM) การสนับสนุนสายการผลิต การติดตั้ง และการจัดการเอกสาร ISO โดยเราตั้งเป้าอย่างต่อเนื่องที่จะลดระยะเวลา Turn Around Time (TAT) เพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิตของลูกค้า