เลือกเทคโนโลยีโบลเวอร์อย่างไรให้เหมาะกับการบำบัดน้ำเสียในโรงงานอุตสาหกรรม

Atlas Copco  เข้าใจและตระหนักถึงปัญหาน้ำเสีย จึงพัฒนานวัตกรรมเพื่อใช้ในกระบวนการบำบัดน้ำเสียในโรงงานอุตสาหกรรมขึ้นมาโดยเฉพาะ นั่นก็คือเทคโนโลยีโบลเวอร์ (screw air blower) ที่โรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศเลือกใช้  โดยโบลเวอร์ที่ใช้จะเป็นโบลเวอร์แรงดันต่ำ (Oil-Free Low Pressure) ขนาด 0.3 - 3 bar เนื่องจากสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย จึงนิยมนำมาติดตั้งเพื่อบำบัดน้ำเสียในโรงงานอุตสาหกรรม (effluent treatment plant) เพราะมีคุณสมบัติที่เปาอากาศในน้ำได้อย่างทั่วถึง น้ำเสียหรือน้ำที่มีการปนเปื้อนในอุตสาหกรรมที่ผ่านการบำบัด จะนำกลับมาใช้อุปโภค บริโภคใหม่ หากบำบัดไม่ดี แล้วมีการนำมาใช้ในกระบวนการผลิตหรือเราอาจบริโภคเข้าไป ก็อาจจะเป็นอันตรายได้ ดังนั้นการเลือกเทคโนโลยีให้เหมาะสมกับการใช้งานจึงเป็นเรื่องสำคัญ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมโรงงานต่างๆ จึงเลือกเทคโนโลยีโบลเวอร์แรงดันต่่ำ (screw air blower) ที่เพื่อใช้ในกระบวนการบำบัดน้ำเสีย

สำหรับเทคโนโลยีโบลเวอร์แรงดันต่ำสำหรับใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม (low-pressure blower technologies) มีทั้งหมด 4 ชนิด ได้แก่ lope blower, screw blower, centrifugal lower และ multistage โดยเทคโนโลยี centrifugal (high-speed turbo blowers, multistage blowers และ multistage centrifugal blowers) เป็นโบลเวอร์ที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับงานที่ต้องใช้แรงดันต่ำ (ต้องการ flow rates สูงถึง 5,000  ลบ.ม. / ชม.) จึงเหมาะสำหรับการใช้งานที่มีขนาดใหญ่และการนำไปใช้งานเฉพาะทาง

การนำเทคโนโลยีโบลเวอร์ใหม่ๆ อย่าง Screw Air Blower มาใช้ในกระบวนการบำบัดน้ำเสียแทนการใช้โบลเวอร์รุ่นเก่าๆ ที่เป็นแบบ fixed speed อย่าง lobe blower หรือ root blower จึงเป็นที่นิยม 

Atlas Copco  ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีเราเข้าใจคุณ ว่าการใช้โบลเวอร์แบบ lobe นั้นมีต้นทุนเรื่องค่าใช้จ่ายที่ถูกก็จริงแต่เทียบกับการใช้งานในระยะยาวแล้วค่อนข้างสิ้นเปลืองพลังงานเลยทีเดียว เราจึงพัฒนาเทคโนโลยีโบลเวอร์ (screw air blower) ให้มีสมรรถนะและประสิทธิภาพมากขึ้น โดยใส่ตัวควบคุมอินเวอร์เตอร์ VSD เข้าไปในตัว screw air blower  ทำให้มีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 30% เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีดั้งเดิมหรือโบลเวอร์รุ่น lobe (root blower) โบลเวอร์ชนิดนี้ใช้พลังงานน้อยลงเนื่องจากคอนเซปการออกแบบชิ้นส่วนโรเตอร์ให้มีการทำงานด้วยการบีบอัดภายในที่สูงขึ้น

การที่คุณจะเลือกเทคโนโลยีโบลเวอร์สักตัวคือคุณต้องรู้ว่าจะนำมาใช้อะไร คุณต้องทำการวิเคราะห์อย่างละเอียดตั้งแต่การติดตั้งไปจนถึงลักษณะการใช้งาน แรงดัน ความต้องการของลม นอกจากนี้เรื่องต้นทุนก็เป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นเราควรจะหาเทคโนโนโลยีโบลเวอร์ให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณแต่วันนี้เราจะมาเลือกพิจารณาการเลือกโบลเวอร์เพื่อใช้ในกระบวนการบำบัดน้ำเสียในโรงงานอุตสาหกรรม โดยควรพิจารณาจากปัจจัยดังต่อไปนี้:

           1. Flow และ  Pressure

การติดตั้งโบลเวอร์ที่ใช้ในกระบวนการบำบัดน้ำเสีย เราจะเลือกโบลเวอร์ตามระดับคุณภาพของน้ำ ไม่เกี่ยวกับขนาดของบ่อบำบัด ยิ่งน้ำเน่าเสียมากยิ่งต้องเติมอากาศเข้าไปมาก ทำให้ต้องใช้โบลเวอร์ที่มี flow และ pressure สูงขึ้น หากเราใช้โบลเวอร์ขนาดเหมาะสมกับการใช้งานจะช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น Operational costs และ TCO

           2.  Operational costs และ TCO

เทคโนโลยี Lope Blower นั้นมีต้นทุนในการซื้อเครื่องที่ราคาถูกกว่าเกือบ 5% จากราคาซื้อ ซึ่งเป็นจุดที่ดึงดูดผู้ลงทุนแต่หากคุณเปรียบเทียบราคาโดยรวมทั้งค่าไฟฟ้าและการบำรุงรักษาแล้วอาจเป็นการลงทุนที่ไม่ถูกอย่างที่คิด  เนื่องจากเครื่องโบลเวอร์เป็นเครื่องที่ใช้เติมอากาศในกระบวนการทางชีวภาพที่ต้องทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อทำการผลิตก๊าซออกซิเจนอย่างเหมาะสมกับจุลินทรีย์ขนาดเล็กที่ต้องถูกกำจัดในบ่อบำบัด รวมถึงรักษาประสิทธิภาพความสมดุลของพืช ดังนั้นการพิจารณาในเรื่องของต้นทุนตลอดการใช้งาน (total cost of ownership) จึงจำเป็นที่เราควรนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ เวลาเลือกโบลเวอร์ 

          3. Application   

ลักษณะการใช้งานก็มีผลต่อการเลือกโบลเวอร์  ตัวอย่างเช่น ความพร้อมในเรื่องของสถานที่ติดตั้งโบลเวอร์  หากโรงงานคุณมีพื้นที่จำกัด  อาจจะต้องเลือกเทคโนโลยีโบลเวอร์ที่มีขนาดเล็กลงและมีเสียงรบกวนต่ำ เราอยากแนะนำให้คุณใช้เทคโนโลยีscrew blower แบบ VSD (screw blower) ที่ประหยัดพลังงาน สามารถลดค่าใช้จ่ายโดยรวมตลอดอายุการใช้งานเครื่อง

           4. เสียงรบกวนขณะทำงาน

เรื่องของเสียงรบกวนในขณะที่เครื่องทำงาน หากสภาพแวดล้อมที่คุณต้องติดตั้งโบลเวอร์อยู่ใกล้ผู้คนทำให้คุณกังวลเรื่องของเสียงรบกวน เทคโนโลยีscrew blower แบบ VSD (screw blower) จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เหมาะสม ลักษณะของโบลเวอร์แรงดันต่ำรุ่นล่าสุดที่มีแผ่นกั้นอัจฉริยะได้ออกแบบการทำงานให้มีระดับเสียงที่ลดลงเหลือเพียง 72dB (a) ดังนั้นค่าใช้จ่ายในการติดตั้งจึงลดลงเนื่องจากไม่จำเป็นต้องมีห้องและประตูสำหรับเก็บเสียงรบกวน

           5. การบำรุงรักษาตลอดอายุการใช้งาน

เมื่อพูดถึงการบำรุงรักษาตามปกติแล้ว เทคโนโลยีโบลเวอร์รุ่นเก่าบางรุ่นอาจจำเป็นต้องได้รับบริการซ่อมแซม หรือทำการ refurbished โดยซัพพลายเออร์ที่จำหน่ายเครื่อง แต่การพัฒนาของเทคโนโลยี Oil-Free Low Pressure (screw air blower)  แสดงให้เห็นว่ามีการบำรุงรักษาที่ต่ำมาก แทบจะไม่ต้องเข้าไปซ่อมบำรุงเลย และคอยให้ความช่วยเหลือคุณตลอดอายุการใช้งานด้วย

           6. การเปรียบเทียบด้านประสิทธิภาพ

หากเปรียบเทียบโดยดูจากตัวเลขทางสถิติ ยกตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีโบลเวอร์ tri-lobe rotor รุ่นล่าสุด มีเสียงรบกวนต่ำ การสั่นและแรงสะเทือนต่ำ มีประสิทธิภาพในการกวาดปริมาณอากาศได้เกือบหกเท่าในครั้งเดียวเมื่อเทียบกับโบลเวอร์ belt-driven หรือ twin-lobe รุ่นก่อนที่ประสบปัญหา transmission losses มากถึง 5% - 7%  เทคโนโลยีโบลเวอร์ tri-lobe rotor รุ่นล่าสุดจึงมีประสิทธิภาพมากกว่า

แต่ข้อดีของโบลเวอร์ direct-drive (oil-free, rotary screw blowers) คือมีอินเวอร์เตอร์ไดฟ์ในตัวจึงสามารถมีสมรรถนะการทำงานที่กว้างขึ้น ทำให้เครื่องสามารถเติมอากาศเข้าไปในบ่อบำบัดได้ตามความต้องการ ซึ่งปริมาณลมที่ต้องการอาจแปรผันในแต่ละวันหรือฤดูกาลทำให้ประหยัดพลังงานและเพื่อรับมือกับความต้องการที่ผันผวนนี้ เทคโนโลยีสกรูโบลเวอร์จึงรองรับทำงานได้ตั้งแตุ่สมรรถนะตั้ง 100% ไปจนถึง 25% 

หัวใจสำคัญของระบบเทคโนโลยีโบลเวอร์ ZS (ZS screw air blower) จาก Atlas Copco คือเราออกแบบส่วนประกอบสกรูที่ล้ำสมัย ทนทาน ปราศจากน้ำมัน 100% มีการสั่นสะเทือนที่ต่ำ ที่สำคัญคือไม่เหมือนใครแน่นอนเพราะเรารับประกันผลิตภัณฑ์ถึง 5 ปี

นอกจากนี้เรายังได้ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Elektronikon® ลงในเทคโนโลยี ZS (ZS blowers) เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมและตรวจสอบสถานะและประสิทธิภาพการทำงานของตัวโบลเวอร์ได้จากระยะไกล ทำให้เทคโนโลยีโบลเวอร์ของคุณมีประสิทธิภาพและน่าเชื่อถือมากขึ้น และเมื่อมีการควบคุมโบลเวอร์้ร่วมกับเครื่องวัดค่าออกซิเจนละลายในน้ำ (Dissolved Oxygen, DO) ไม่เพียงแต่ช่วยในกระบวนการทางชีวภาพในการบำบัดนำเสียอย่างมีประสิทธิภาพแล้วยังช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย

ทั้งนี้ทั้งนั้นการเลือกใช้เทคโนโลยีโบลเวอร์ในกระบวนการบำบัดน้ำเสียสามารถเลือกได้หลายแบบ ซึ่งต้องคำนึงถึงขนาดและลักษณะของการใช้งาน รวมไปถึงต้นทุนของค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนตลอดการใช้งานของเครื่องโบลเวอร์  เราจึงควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน